คุณรู้จักลูกค้าของคุณดีพอหรือยัง (What you should know about your customers)
หลายๆ องค์กร อาจมีหรือไม่มี การจัดเก็บข้อมูลลูกค้า หรือมีการจัดเก็บแต่กระจัดกระจายอยู่ในหลากหลายแผนก ไม่มีการ update และเวลานึกถึง ไม่รู้ว่าจะใช้ข้อมูลใน ไฟล์ไหนดี และถ้าเราคิดจะเริ่มต้นจัดเก็บข้อมูลลูกค้า เราจะเก็บข้อมูลอะไรของลูกค้าบ้าง บทความตอนนี้เลยขอสรุป รายละเอียดของลูกค้าที่ควรมีนะคะ
-
ข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อ เบอร์โทร email lineID ฯลฯ และตรงนี้ถ้ารวบรวมได้นะคะ ว่าลูกค้าแต่ละรายชอบให้ติดต่อช่องทางไหน และวันเวลาเมื่อไหร่ ก็จะเป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าเฉพาะรายคะ
-
ข้อมูล Demographic เช่น อายุ เพศ ที่อยู่ รายได้ ลักษณะของครอบครัว ฯลฯ ข้อมูล Demographic จะทำให้เราเข้าใจลักษณะพื้นฐานของลูกค้า และช่วยให้เราวางแผน ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้า/บริการ หรือ การบริการลูกค้า เช่นถ้าทราบว่าลูกค้าพื้นเพเป็นคนเหนือ บางองค์กรจะจัดพนักงาน Customer Service ให้พูดภาษาเหนือกับลูกค้า หรือ บริษัทประกัน ก็จะออกแบบประกันสำหรับครอบครัว ถ้าทราบว่าลูกค้า แต่งงานมีครวบครัวเป็นต้นคะ
-
ข้อมูล Personas คือการหาบุคลิกตัวตนเฉพาะของลูกค้าขึ้นมา ซึ่งเราอาจพัฒนาจาก customer segment ขึ้นมาก่อนและจะมีการทำวิจัยประกอบ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพก็ได้ (qualitative data)
-
ประวัติการซื้อสินค้า/บริการ จะเป็นอีกข้อมูลที่มีความน่าสนใจว่าลูกค้ามีความภักดีการเราหรือไม่ มีความถี่การสั่งซื้อเป็นอย่างไร ข้อมูลที่เก็บเช่น วันที่สั่งซื้อล่าสุด จำนวนการสั่งซื้อ มูลค่าการสั่ง ชนิดและประเภทสินค้า/บริการที่สนใจ Lifetime value
-
พฤติกรรมของลูกค้า ตรงนี้อาจเกี่ยวข้องกับการศึกษา customer journey เพื่อดูว่ากว่าจะเป็นลูกค้าของเรา อะไรคือสิ่งกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจเรา และกว่าจะเป็นลูกค้าเรา มีขั้นตอนอย่างไร ถูก influence โดยใครบ้าง ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษา lifestyle ลูกค้าควบคู่ไปด้วย
-
Sales Cycle เพื่อดูสถานะลูกค้าในปัจจุบัน เช่นเป็น ลูกค้าที่ซื้อครั้งแรก เป็นลูกค้าที่ซื้อ Top 10 เป็นลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำ และลูกค้าที่เป็นลูกค้าของคนอื่นๆ ไปแล้ว
-
ข้อมูล Engagement เป็นการวัดความผูกพันของลูกค้า เช่น ลูกค้ามีการบอกต่อให้คนอื่นมาใช้สินค้า/บริการของเราหรือไม่ มีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ร่วมกับองค์กรหรือไม่ (co-creation) เป็นผู้ที่บอกต่อเรื่องราวของสินค้า/บริการของเราใน social หรือไม่ และลูกค้าเองมีการใช้สินค้า/บริการของเราอย่างต่อเนื่อง ใช้มากขึ้น หรือขยาย/เพิ่มการใช้ไปยัง category อื่นๆ เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น
จากข้อมูลทั้งหมด อาจดูเยอะมาก เราคงต้องประชุมกันในทีมของเรา และเริ่มสร้างแผนงานซึ่งอย่างไรคือการรวบรวมข้อมูลลูกค้าที่อยู่กระจัดกระจายมาไว้ในที่เดียวกันก่อน อาจเริ่มจาก excel ง่ายๆ แล้วเราค่อยมาดูว่าข้อมูลที่เรามีสมบูรณ์ และ update มากน้อยแค่ไหน และเราค่อยพัฒนาต่อไปเรื่องการสำรวจข้อมูลลูกค้า ซึ่งอาจได้จาก ทีม Call Center ช่วยในกรณีลูกค้าโทรติดต่อเข้ามา หรือโทรออกสัมภาษณ์ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์และพัฒนาการตลาดต่อไป ค่อยเป็นค่อยไปนะคะ
Thailand Contact Center